ประโยชน์มหาศาลจากการกินอัลมอนด์
อย่างที่ใครหลายๆ คนทราบกันดีว่าอัลมอนด์เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีช่วยในการเบิร์นไขมันในร่างกายและยังช่วยดูแลหัวใจของเราอีกด้วย แต่อาจจะมีเพื่อนๆ บางคนที่ยังไม่ทราบว่าอัลมอนด์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง insured จึงนำข้อมูลของ ประโยชน์มหาศาลจากการกินอัลมอนด์ มาฝากกันค่ะ
ประโยชน์ของอัลมอนด์มีดังนี้
1. ต่อต้านอนุมูลอิสระ
อัลมอนด์อุดมไปด้วยวิตามินอี แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ อัลมอนด์จึงมีประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
2. ช่วยในการชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
เพราะในเมล็ดอัลมอนด์อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพผิว เนื่องจากวิตามินอีจะทำหน้าที่ในการบำรุงผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์มากขึ้น รวมทั้งช่วยให้ออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ ไหลเวียนในเลือดได้ดี และยังช่วยเสริมสร้างเซลล์และพร้อมทั้งซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ เส้นผม เล็บ เป็นต้น ที่สำคัญยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อีกด้วย
3. บำรุงระบบประสาท
ช่วยเพิ่มสติปัญญา สมาธิให้มากขึ้นและยังช่วยช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
4. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
หากรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายได้ถึง 50% เนื่องจากมีสารพัดวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารอัดแน่นอยู่ในเม็ดเล็ก ๆ และยังมีกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ในร่างกาย เลยมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และยังช่วยบำรุงเสริมสร้างกระดูก ฟันให้แข็งแรงและสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
5. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ในเมล็ดอัลมอนด์มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ถึง 30-50% เพราะช่วยในการหลั่ง Insulin หลังการรับประทานอาหารอาหาร ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดที่เพิ่มขึ้นถูกดูดซึมเก็บไว้ที่ตับและเนื้อเยื่ออื่น ๆ จึงมีผลทำให้สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
6. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้
เนื่องจากอัลมอนด์มีเส้นใยอาหารในปริมาณมาก ช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานเป็นปรกติ จึงช่วยป้องกันโรคท้องผูก และลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ได้
7. ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
อัลมอนด์เป็นถั่วที่มีโปรตีนสูงมาก มีแมงกานีส ไรโบฟลาวิน และสังกะสีค่อนข้างสูง จึงเป็นแหล่งที่ดีของพลังงานของร่างกาย ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการอ่อนเพลียได้ และสร้างความเจริญเติบโต ให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยรักษาสมดุลของกรดด่างในร่างกาย
8. ช่วยลดน้ำหนัก
อัลมอนด์มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักเนื่องจากความหนาแน่นของสารอาหาร ทั้งเส้นใยอาหาร โปรตีน และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในอัลมอนด์จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มและมีพลังงาน คุณจะมีความอยากอาหารน้อยลงซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการรับประทานมากเกินไป นอกจากนี้อัลมอนด์ยังอุดมไปด้วยวิตามินบีรวมและสังกะสีซึ่งจะช่วยหยุดความอยากน้ำตาลได้ด้วย
9. มีสารอาหารที่จำเป็นกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์สามารถรับประทานอัลมอนด์ได้ เพราะถั่วชนิดนี้อุดมไปด้วยกรดโฟลิคที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทารกในครรภ์ของคุณแม่ เนื่องจากพวกมันสามารถป้องกันไม่ให้เกิดความพิการในทารกแรกเกิดได้จะช่วยให้ทารกในครรภ์มีพัฒนาการอย่างเหมาะสมและลดโอกาสเกิดความพิการแต่กำเนิดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของเด็กอย่างมหาศาล กรดโฟลิคที่มีปริมาณสูงในอัลมอนด์จะช่วยเสริมสร้างเซลล์ที่แข็งแรงและเนื้อเยื่อซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ กรดโฟลิคจะช่วยลดความพิการทางสมอง (NTDs) ซึ่งรวมถึงความบกพร่องของกระดูกไขสันหลังและภาวะทารกไร้กระโหลกศีรษะด้วย
10. บำรุงสายตา
ในเมล็ดอัลมอนด์เป็นแหล่งที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ สังกะสีและวิตามินอี อันมีสรรพคุณในการช่วยชะลอภาวะจอประสาทตาเสื่อม ว่ากันว่าเมล็ดอัลมอนด์เพียง 1 กำมือก็ได้วิตามินอี ถึง 50% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว
ข้อมูลที่ควรรู้ของอัลมอนด์
นอกจาก ประโยชน์ของอัลมอนด์ที่มีมากมายมหาศาลแล้ว อัลมอนด์ก็มีโทษเช่นกัน หากรับประทานไม่ถูกวิธี ในสหรัฐอเมริกาจะมีอัลมอนด์อยู่ 2 ชนิดคือ
ชนิดหวาน นิยมนำไปคั่วเสียก่อน ซึ่งชนิดหวานนิยมนำไปคั่วอบ แล้วกินเล่น หรือใส่ในเบเกอรี่ อีกทั้งยังกินแบบดิบๆ ได้ นอกจากนี้อัลมอนด์หวาน ยังสามารถนำเอาเมล็ดดิบมาใช้ทำเป็นนมอัลมอนด์ ซึ่งจะมีรสชาติหอม มัน อีกด้วย
ชนิดขม อัลมอนด์ชนิดนี้จะหาซื้อยากและยังเป็นอันตรายอีกด้วย เพราะมีสารชนิดหนึ่ง (Hydrogen cyanide) เวลาดมจะคล้ายกลิ่นไซยาไนด์ ซึ่งมีพิษต่อร่างกาย แค่รับประทานอัลมอนด์ดิบไปเพียง 1 ออนซ์ก็เป็นอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าทำให้สุกสารพิษเหล่านี้ก็หายไป ดังนั้นการซื้อขายอัลมอนด์ดิบในสหรัฐอเมริกาจึงถือว่าผิดกฎหมาย ที่เราเห็นๆ วางขายในท้องตลาดมักจะถูกลวกให้สุกเพื่อทำลายสารพิษแล้ว
สำหรับคนที่กังวลเรื่องน้ำหนักตัว คุณสามารถรับประทานถั่วอัลมอนด์แทนของหวานหรือการรับประทานขนมขบเคี้ยวในระหว่างวันได้อย่างสบายใจ นอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้วยังได้คุณค่าจากธรรมชาติไปเต็ม ๆ และยังช่วยลดน้ำหนักไปในตัวด้วย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในการรับประทานก็ควรที่จะรับประทานวันละประมาณ 1 กำมือ หรือ 24 เมล็ดเท่านั้น ไม่ควรบริโภคมากจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน กรดไขมันไม่อิ่มตัว เส้นใยอาหาร และโปรตีน ในปริมาณที่เหมาะสมและส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณนะคะ